ข้อแนะนำในการเป็นวิสาหกิจชุมชนที่ดี !!!

วันนี้มีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณแม่ประรส วิศรียา ประธานวิสาหกิจชุมชนแปรรูปน้ำผลไม้บ้านโนนหัวช้าง ทราบว่าคุณแม่มีลูกสาวหนึ่งคนพร้อมที่จะสืบทอดกิจการ โดยไม่เข้าสู่ระบบการทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน
คุณแม่มีประสบการณ์ร่วม 20 ปี เริ่มยุคบุกเบิกแบบสหกรณ์ เข้าสู่ยุครุ่งเรือง จนถึงยุคตกต่ำ และฟื้นตัวขึ้นมาได้ ผมสอบถามและสรุปได้ความว่าการเป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจที่ดี ต้องมีองค์ประกอบ ดังนี้
1. อย่าเอาเงินเป็นตัวตั้ง หากหวังเอากำไรสูงสุดเป็นเป้าหมาย โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพสินค้า ความพึงพอใจของลูกค้าและทีมงาน ขาดจริยธรรม ลูกค้าก็จะซื้อสินค้าเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
2. เอาใจใส่สินค้า ต้องเอาใจใส่สินค้าทุกรายละเอียด โดยมีตัวชี้วัดง่าย ๆ คือ ใช้สินค้าที่ตัวผลิตหรือไม่ คุณแม่เองก็ดื่มน้ำผลไม้ที่ผลิตเป็นประจำ หากเรายังไม่กล้าบริโภค แล้วใครจะมั่นใจกล้าซื้อของเรา
3. เอาใจใส่ทีมงาน ในวิสาหกิจเป็นกลุ่มชาวบ้านที่เข้ามาช่วยทำงาน ต้องจ้างงานที่เป็นธรรม ไม่เอาเปรียบ ถ้าขยันก็ให้เงินเพิ่มขึ้น สำหรับคนที่เอาใจใส่ในงานมาก ก็ผลักดันขึ้นมาเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เขาคิดทำได้เต็มที่
4. ลดต้นทุนการผลิต ต้องหาช่องทางการลดต้นทุนที่ไม่ใช่ค่าแรงของชาวบ้าน เช่น การเสียบปลั๊กตู้แช่ว่างเปล่าทิ้งไว้ เป็นต้น ตัดกระบวนการที่ไม่จำเป็นออก ซึ่งต้องลงมือปฏิบัติจริงจึงจะเห็นแนวทางดังกล่าว
5. ลงมือปฏิบัติเอง แม้คุณแม่จะเป็นประธานกลุ่ม แต่ยังคงต้องลงมือปฏิบัติด้วยตัวเองทุกขั้นตอน เพื่อทราบถึงปัญหา อุปสรรค แล้วหาวิธีแก้ไข หากเราไม่ลงมือปฏิบัติก็จะไม่รู้รายละเอียดที่สำคัญในการพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์
6. เก็บข้อมูลจากลูกค้า เมื่อขายสินค้าแล้วไม่ได้จบแค่นั้น ต้องพยายามปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อสอบถามข้อมูล เช่น น้ำผลไม้กลิ่นแรงไป เปรี้ยวหรือหวานเกินไป เป็นต้น ข้อมูลจริงจะทำให้เราเห็นแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์
7. ผลิตภัณฑ์หลากหลาย ต้องไม่พึ่งพาสินค้าชนิดเดียว เพราะหากผิดพลาดทำให้กิจการเสียหาย ที่นี่จึงมีทั้งน้ำแปรรูปจากหมากเม่า หมากหม่อน มะม่วงหาวมะนาวโห่ ตรีผลา มะขามป้อม ซึ่งเป็นน้ำดื่มด้านสุขภาพด้วย
8. ยึดความพอดี บางครั้งเพราะความโลภอยากขยายธุรกิจ ก็ไปกู้ยืมเงินจนเกิดหนี้สินเกินความจำเป็น ต้องเร่งขายสินค้าทันกับต้นทุน ทำให้ความเอาใจใส่ต่อตัวผลิตภัณฑ์และทีมงานลดลง ทุกคนต้องรู้จักความพอดี
คุณแม่ทิ้งท้ายว่าการทำธุรกิจเปรียบเสมือน “การวิ่งผลัด” ที่ต้องส่งไม้ต่อ ไม่ใช่ “การวิ่งมาราธอน” ที่วิ่งไปเรื่อย ๆ ตอนนี้แม่อยู่ในช่วงวิ่งช้าลง เพื่อส่งไม้ต่อให้ลูกสปีดเร็วขึ้น เมื่อส่งต่อไปยังรุ่นหลานก็ยิ่งเร็วขึ้นไปอีก ดังนั้นในขณะที่วิ่งผลัดไม้แรกอยู่จึงต้องทำให้ดีที่สุด