10 มีนาคม 2566
กิจกรรม FMS Clubhouse 1 “คณบดีวิถีสัญจร” วันนี้มีโอกาสพูดคุบกับนักศึกษาที่มีความบกพร่องทางร่างกาย 2 คนครับ น้องคนที่หนึ่งบกพร่องทางการเคลื่อนไหว ซีกขวาอ่อนแรง และน้องคนที่สองบกพร่องทางการได้ยิน แต่ใช้เครื่องช่วยฟังเสียบที่หู สามารถสื่อสารได้เกือบปกติ ทั้งสองคนมีความบกพร่องตั้งแต่กำเนิด ผมถามในไลน์เมื่อได้ข้อมูลจากศูนย์ DSS เด็ก ๆ 2 คน ปิดเทอมแต่ยังไม่กลับบ้านรีบตอบรับและสะดวกที่จะมาคุยกับผมครับ
น้องคนที่หนึ่งเรียนคอมพิวเตอร์ธุรกิจ 2 ปี หลัง เล่าว่าสอบผ่านโปรเจคท์แล้วกำลังจะไปฝึกงานวันจันทร์นี้ ที่ อบต.กุสุมาลย์ครับ เขาจบการศึกษา ปวส. จาก วิทยาลัยเทคนิคแถวโพนสวรรค์ เลือกมาต่อที่ มรภ. สกลนคร เพราะใกล้บ้าน สะดวกในการเดินทางสามารถกลับบ้านได้ง่าย พื้นฐานครอบครัวมีสวนยางกว่า 20 ไร่ เลี้ยงแพะ เลี้ยงหมู มีรายได้ตามสมควร น้องบอกว่าจบมาอยากอยากนะระดับธุรกิจของครอบครัว และอยากเป็นเจ้าของธุรกิจซักอย่าง แต่ตอนนี้ยังคิดไม่ออก ค่ะ !! 555
ตรงนี้คงเป็นโจทย์ทั้งเรื่องของการยกระดับธุรกิจครอบของเด็ก ๆ และสานฝันให้เป็นผู้ประกอบการ
การเรียนไม่มีปัญหาอะไร รายวิชาที่ยากก็ผ่านพ้นไปได้โดยมีที่ปรึกษา เอาใจใส่เป็นอย่างดี ผมลองถามความถนัดน้องบอก เขา (อาจ) มีความสามารถพิเศษทางกราฟฟิกดีไซน์ และสามารถทำเว็บไซต์ได้ เพราะเป็นตัวโปรเจคท์จบ สำหรับการใช้ชีวิตก็อยู่หอพักในกับเพื่อนต่างสาขาจำนวน 3 คน ไปไหนมาไหนด้วยรถไฟฟ้าแบบสามล้อ ซึ่งด้านสุขภาพร่างกายก็ทำการกายภาพดีขึ้นเรื่อย ๆ และสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ ครับ
สำหรับน้องคนที่สองตามข้อมูลเรียนชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาการตลาด เลือกเรียนที่ มรภ.สกลนคร เพราะรับนักศึกษาพิเศษ แต่ปัจจุบันได้ย้ายไปสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ ตั้งแต่เทอม 2 / 2565 น้องต้องใช้เครื่องช่วยฟังทั้ง 2 ข้าง ตั้งแต่เด็ก (เปิดให้ผมดูด้วย) สามารถได้ยินชัดเจน สื่อสารได้เกือบปกติ และเรียนโรงเรียนปกติร่วมกับเพื่อนมาตลอด ปัจจุบันอยู่หอพักข้างนอก และได้รับจ้างทำความสะอาดหอพัก ล้างจาน ช่วยเหลือเจ้าของหอพักที่อาศัยอยู่ ทำให้มีรายได้ช่วยเสริมกับเงินที่พ่อแม่ส่งมาสัปดาห์ละ 500 ครับ
และยังบอกกับผมว่าบางครั้งรับจ้างเพื่อนเขียนงาน (คนปกติจ้างคนพิเศษ 555) เป็นคนชอบเขียน แต่มีปัญหาในเรื่องการแต่งหรือเขียนประโยคภาษาไทย ทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และบางครั้งในการพูดต้องมีคนช่วยฟัง แล้วสะท้อนความเข้าใจซักนิดนึง น้องจะตอบช้านิด ๆ น่ะครับ ถ้าเจอรายวิชาที่ต้องพูด สื่อสาร จะค่อนข้างมีปัญหาทันที และมีรายวิชานึงที่น้องพูดอาจจะช้าและไม่ชัดเท่าไหร่ แต่อาจารย์ไม่เข้าใจว่าทำไมสื่อสารไม่ได้ ทั้งที่ได้บอกเป็นเด็กพิเศษ จึงฝังในใจเรื่องนี้ ครับ (ตัวจริงน้องดูปกติมาก มีแฟนมารับมาส่งด้วย) เราคงต้องเรียนรู้ทำความเข้าใจเด็กมาก ๆ แล้วหล่ะ
ในพื้นฐานครอบครัวทางบ้านทำนาทำสวน อยู่ที่อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ น้องเป็นลูกคนสุดท้อง ผมถามเคยช่วยพ่อแม่ทำนามั้ย น้องบอกว่าอยากช่วยแต่พ่อแม่ไล่ไม่ให้ทำค่ะ 555 พ่อคงรักลูกมาก ๆ และเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับเครื่องช่วยฟังก็จะรีบลงมาดูแลทันที ผมถามว่ากลับบ้านยังไง ก็บอกขับมอเตอร์ไซค์ค่ะอาจารย์ โห !! 70 กิโล กับทางเปลี่ยว ๆ แข็งแกร่งน่าดู ส่วนการเรียนพอย้ายสาขาจะมีเพื่อนที่เป็นหูหนวกสนิทใช้ภาษามือ แต่ตัวเองก็ไม่เข้าใจภาษามือ สำหรับอนาคตยังไม่ได้วางแผนชัดเจน แต่บอกกับผมว่าอยากไปประเทศเกาหลี และปัจจุบันกำลังเรียนรู้ภาษา วัฒนธรรม โดยดูผ่าน Tiktok และยังรู้ข้อมูลว่าเกาหลีไม่รับผู้บกพร่องทางการได้ยิน ครับ (จริงหรือไม่น้อ)
ทั้งสองคนใช้เฟสบุ๊ค ไลน์ และ Tiktok ดูข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ น้องคนที่หนึ่งชอบอ่านสารคดี และคนที่สองเรียนรู้ผ่าน Tiktok ทั้งสองคนพยายามพัฒนาตนเอง และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ผมคิดว่าทั้งสองมีกรอบความคิดที่ดีมาก ๆ และพยายามพึ่งพาตัวเองมากที่สุด และยังบอกว่าสำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ก็เป็นพื้นที่ที่เอื้อต่อนักศึกษาพิเศษเป็นอย่างดี